โมดริชพลาดโทษไม่เป็นไร! เรอัล มาดริด ไล่อัด อัล อาห์ลี 4-1 เข้าชิงสโมสรโลก

ฟุตบอลสโมสรชิงแชมป์โลก 2023 รอบรองชนะเลิศ เรอัล มาดริด พบกับ อัล อาห์ลี เกมนี้เล่นที่สนาม Complexe Sportif Moulay Abdellah ประเทศโมร็อคโก

เริ่มเกม เรอัล มาดริด เป็นฝ่ายครองบอล และมีจังหวะจบอยู่บ่อยครั้ง ขณะที่ อัล อาห์ลี ได้ตอบโต้อยู่เรื่อยๆ ผ่านไปถึงนาที 42 เป็นฝั่ง เรอัล มาดริด ที่ออกนำ 1-0 จากการยิงของ วินิซิอุส แล้วจบครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้

ครึ่งหลังผ่านไปแค่นาทีเดียว เฟเดริโก้ บัลเบร์เด้ บวกอีกลูกให้ เรอัล มาดริด ขยับหนีเป็น 2-0 จากนั้นเป็นฝั่ง อัล อาห์ลี ที่ได้โอกาสอย่างต่อเนื่อง 3-4 หน แล้วถึงนาที 65 พวกเขาไล่มาเป็น 1-2 จากการยิงของ อาลี มาโลอูล จากนั้นพวกเขายังบุกแบบได้ใจแต่ยังไม่ได้ประตูตีเสมอ

ถึงนาที 87 เรอัล มาดริด ได้จุดโทษ ทว่าลูกยิงของ ลูก้า โมดริช ไปติดเซฟของ โมฮาเหม็ด เอล เชนาวี่ แต่ถึงช่วงทดเวลาบาดเจ็บ 90+2 สกอร์ 3-1 มาจนได้ จากจังหวะที่ ดานี่ เซบาญอส จ่ายให้ โรดรีโก้ กดเข้าไป แล้วถึงนาที 90+8 เซร์กิโอ้ อาร์ริบาส ซัดปิดกล่องให้ ราชันชุดขาว เข้าวิน 4-1

เรอัล มาดริด เข้าชิงกับ อัล ฮีลาล ตัวแทนเอเชีย

จากชัยชนะ 4-1 ส่งให้ เรอัล มาดริด ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศเป็นครั้งที่ 5 ซึ่ง 4 ครั้งก่อนหน้านี้ พวกเขาสามารถคว้าแชมป์ไปครองได้ทั้งหมด โดยคู่ชิงในหนนี้เป็น อัล ฮีลาล สโมสรยักษ์ใหญ่ของซาอุดิอาระเบีย คู่แข่งทีมสำคัญของ อัล นาสเซอร์ ทีมของ คริสเตียโน โรนัลโด้

เกมนี้ เรอัล มาดริด ครองบอล 62% จ่ายบอล 627 โอกาสยิง 19 โดยที่ เฟเดริโก้ บัลเบร์เด้ เจ้าของสกอร์ 2-0 เลี้ยงผ่าน 3 ครอส 3 ชนะลูกโด่ง 4 ครั้ง ผลงานดีที่สุดในทีม (7.8 คะแนน) ตามด้วย โรดรีโก้ เจ้าของสกอร์ 3-1 โอกาสยิง 7 เลี้ยงผ่าน 4 (7.7 คะแนน) และ อันดรี ลูนิน เซฟ 4 ออกตัดบอล 1 (7.4 คะแนน)

คาร์โล อันเชล็อตติ กุนซือทัพราชันชุดขาว กล่าวหลังเกม

"เราเป็นฝ่ายครองเกมอยู่พักใหญ่ จากนั้นเราออกนำ 2 สกอร์ ซึ่งผมคิดว่ามันน่าจะจบแล้ว แต่จบง่ายๆมันคงไม่ใช่ฟุตบอล"

ลูก้า โมดริช พลาดจุดโทษ แล้วนี่เป็นเกมที่ 2 ติดต่อกัน ที่พวกเขาพลาดจุดโทษ ก่อนเล่นเกมนี้ไม่กี่วัน มาร์โก อเซนซิโอ้ ก็พลาดจุดโทษ ในเกมแพ้ มาญอร์ก้า 0-1

"ผมต้องเลือกมือยิงให้ดีกว่านี้ แต่เอาเถอะจุดโทษมันพลาดกันได้ ผมมีตัวเลือกที่ดีที่สุดอย่าง คาริม เบนเซม่า , ลูก้า โมดริด และ มาร์โก อเซนซิโอ้"

เฟเดริโก้ บัลเบร์เด้ กับ วินิซิอุส คือสองผู้เล่นที่ทำผลงานได้โดดเด่นที่สุด พวกเขามีคนละ 1 สกอร์ และมีส่วนร่วมกับเกมรุกหลายจังหวะ

"ผมขื่นใจที่เห็นเฟเดริโก้กลับมาเล่นได้อีกครั้ง เขากำลังกลับมา ส่วนวินิซิอุส เขาเล่นฟุตบอลได้ทุกที่ เขาเป็นตัวร้าย ประตูที่ยิงได้ก็สุดมหัศจรรย์ เขาคือวินิซิอุสคนเดิมที่เราเห็นอยู่ทุกครั้ง"

_____________________________________________________

ติดตามข่าวเพิ่มเติม :: ข่าวฟุตบอลออนไลน์ อ่านข่าวฟุตบอลเพิ่มเติม :: ข่าวกีฬาวันนี้